ปอมเปอีเมืองโศกนาฏกรรม

ปอมเปอีเมืองโศกนาฏกรรมแห่งเมืองภูเขาไฟในอิตาลี

มาทำความรู้จัก ปอมเปอีเมืองโศกนาฏกรรม ถ้าพูดถึงอิตาลีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็คงรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวฮิตๆ เช่น โครอสเซียม เมืองโรแมนติก อย่างเวนิส หรือจะเป็นหอแอนแห่งเมือง ปีซ่า แต่ทุกท่านจะรู้ไม่ว่าอิตาลียังมีแห่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่ หนึ่งที นั้นก็คือ เมืองปอมเปอี ความน่าสนของปอมเปอีไม่เพียงแต่เป็นเมืองที่มีอายุกว่า 2,000 ปีแล้ว แต่ปอมเปอี นั้นยังมีประวัติที่น่าสนใจ พร้อมกับเรื่องน่าหดหู่ในเวลาเดียวกันอีกด้วย โดยทุกคนอาจรู้จัก เมืองปอมเปอี จากภาพยนตร์เรื่อง Pompeii ไฟนรกถล่มปอมเปอี โดยเนื้อหาของเรื่องจะเป็นการจำลองเหตุการณ์บางส่วน เนื้อหาของเรื่องอาจมีการปรับแต่งเนื้อหาของเรื่องให้ดูสนุกมากขึ้น

ปอมเปอีเมืองโศกนาฏกรรม แห่งเมืองภูเขาไฟในอิตาลี

pompeii ปอมเปอีเมืองโศกนาฏกรรม

 งั้นเรามารู้จักกับเมืองปอมเปอีกันให้มากกว่านี้….ก่อนอื่นเราต้องย้อนอดีตไปเมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว

ปอมเปอีเมืองโศกนาฏกรรม
ภาพยนต์เรื่อง Pompeii ไฟนรกถล่มปอมเปอีถ้า

เมืองปอมเปอีตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเนเปิลส์ (Naples) ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี และถือกำเนิดขึ้น โดยชาวออสกัน (Oscan) ในช่วง 700 ปีก่อนคริสตกาล และถูกผนวกรวมกับอาณาจักรโรมันในช่วง 80 ปีก่อนคริสตกาล เมืองท่าแห่งนี้คือ ทำเลทองที่เอื้อต่อการทำการค้าและการเกษตรด้วยความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุจากลาวาภูเขาไฟ ทำให้สามารถปลูกต้นองุ่นและมะกอกได้ดี

pompeii145611
ทางน้ำไหลของเมือง

 

มีการคาดเดาว่าเมืองปอมเปอีแห่งนี้ นั้นมีประชากรอาศัยอยู่ราว 10,000-20,000 คน ภายใน เมืองปอมเปอีมี ทั้งสถาปัตยกรรมต่างๆที่ไม่เหมือนใครอยู่มากมาย แต่ที่เด่นๆก็คือ หลังคาเหนือห้องโถงจะมีช่องโหว่ใหญ่ด้านกว้าง และหลังคาเอียงลาดลงไปทางรูโหว่นั้น เมื่อฝนตก น้ำฝนจะไหลลงไปตามหลังคา ลงไปตามรูโหว่ และไหลลงสู่อ่างกระเบื้องที่อยู่ใต้รูโหว่ และไหลสู่ถังเก็บน้ำ และนอกจากนี้ ยังสะพานส่งน้ำและน้ำพุสาธารณะ
ส่วน สถาปัตยากรรมต่างๆภายในของตัวเมืองปอมเปอี นั้นไม่ได้แตกต่างจากเมืองอื่นๆในอาณาจักรโรมันเท่าไหร่นัก ด้านหนึ่งของเมืองจะมีฟอรั่ม (Forum) ไว้ใช้ในการพบปะสังสรรค์ของชาวเมือง โดยในบริเวณใกล้กันจะมีวิหาร ของเทพเจ้าองค์ต่าง ๆ เช่น เทพเจ้าวีนัส (Venus), จูปิเตอร์ (Jupiter) และอพอลโล (Apollo) ตั้งอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีท่อส่งน้ำเข้ามายังใจกลางเมือง ไว้ใช้สำหรับที่อาบน้ำสาธารณะและน้ำพุอีกด้วย

 

 เหตุการณ์….ก่อนที่ภูเขาไฟจะระเบิด

เหตุการณ์หนึ่งที่ในหนังที่ไม่ได้กล่าวถึง คือก่อนหน้านี้ปอมเปอีได้ประสบกับเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มาแล้วในปี ค.ศ. 62 ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือนเป็นจำนวนมาก และใช้เวลาในการฟื้นฟูให้สมบูรณ์ได้ในอีก 17 ปีให้หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้

 

เมื่อ…..มหันตภัยครั้งใหญ่มาเยือนปอมเปอี 🙁  🙁  🙁

ในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 79 ภูเขาไฟวีซูเสียส ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 5 ไมล์ หรือราวๆ 8 กิโลเมตร ได้เกิดระเบิดขึ้น ฝุ่นควัน หินพัมมิซ และก๊าซพิษจำนวนมากถูกพ่นออกมา กระแสลมในวันนั้นได้พัดพามันไปที่เมืองปอมเปอี และสตาเบีย ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของวิสุเวียส แต่เมืองปอมเปอีใกล้กว่า จึงได้รับผลกระทบมากกว่า ในช่วงเวลาไม่กี่นาที ท้องฟ้าเหนือเมืองปอมเปอีก็ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันจากภูเขาไฟจนแสงอาทิตย์ไม่อาจส่องลอดมาได้ จึงตกอยู่ในความมืดคล้ายยามราตรี หลังจากนั้นไม่นาน หินพัมมิซในฝุ่นควันก็เริ่มจับตัวกันเป็นก้อนใหญ่ที่หนักขึ้น เย็นลง และเริ่มร่วงลงมาสู่เมืองปอมเปอี ชาวเมืองเริ่มวิตก บางคนรีบหนีไป บางคนไปหลบในบ้านหรือในสถานที่ส่วนรวม ต่อมานักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า ในทุกวินาทีนั้นเถ้าถ่านและหินลาวามากกว่า 1.5 ล้านตันรวมถึงก๊าซพิษอีกจำนวนมาก ได้ปะทุออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟอย่างต่อเนื่อง โดยเศษเถ้าถ่านอาจลอยขึ้นสูงถึง 20 ไมล์เหนือปากปล่องภูเขาไฟ ปกคลุมท้องฟ้าจนมืดสนิท ชนิดที่ว่าแม้แต่แสงอาทิตย์ยังส่องลงมาไม่ถึง และเมื่อเศษเถ้าถ่านและหินลาวาเย็นขึ้นเกิดการแข็งตัว ทำให้พวกมันพุ่งตกลงสู่พื้นดินด้วยความเร็วสูง

ซากเมืองปอมเปอีที่ยังคงเหลือให้เห็นอยู่

การระเบิดดำเนินต่อไปอีกหลายวัน ทำให้ชาวเมืองที่เลือกอยู่ในบ้านเริ่มขาดอากาศหายใจ เนื่องจากหินและเถ้าถ่านภูเขาไฟตกลงมาทับถมบริเวณบ้านจนมิด มากเสียจนทำให้หลังคาบ้านพังถล่มลงมา ทำให้คนที่ติดอยู่ภายในถูกฝังและเสียชีวิตลงด้วยความทรมาน แต่ความพิโรธของธรรมชาติยังไม่จบเพียงเท่านั้น แรงสั่นสะเทือนจากการระเบิดทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าชายฝั่ง และกวาดเอาความรุ่งเรืองของปอมเปอีไปจนหมดสิ้น หลังจากนั้นอีกหนึ่งวันได้เกิดฝนที่นำเอาเถ้าถ่านที่ร้อนจัดตกสู่พื้นดิน กลายสภาพเป็นโคลนเดือดที่ไหลกลบเมืองเฮอร์คิวเลเนียม (Herculaneum) ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ให้ได้รับความเสียหายอย่างราบคาบเช่นกัน

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีคนเสียชีวิตไปกว่า 16,000 คน โชคร้ายที่คนเหล่านั้นต่างต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้า ตำนานของพวกเขาสาบสูญไปพร้อมกับความยิ่งใหญ่ของปอมเปอี ที่ถูกฝังกลบภายใต้เถ้าถ่านภูเขาไฟเป็นเวลาหลายร้อยปีนับจากนั้น และมีการประมาณอย่างคร่าวๆ ว่าพลังงานทั้งหมดที่ถูกปล่อยออกมาจากการระเบิดของภูเขาไฟในครั้งนี้ มีความรุนแรงกว่าระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่นถึง 100,000 เท่าเลยทีเดียว

ทุกคนต่างคงมีคำว่าทำไมพวกชาวเมืองไม่รู้เหรอว่ากำลังมีมหัตภัยครั้งใหญ่เกิดกำลังจะเกิดขึ้น? 😕  😕  😕 

มีการค้นพบบันทึกของชาวโรมันคนหนึ่งที่ชื่อ พลินนี่ เดอะ ยังเกอร์ (Pliny the Younger) โดยบันทึกนี้กล่าวว่า ในช่วงวันก่อนภูเขาไฟระเบิดได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินสั่นไหวอยู่หลายครั้ง แต่ด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ยังไม่ก้าวหน้าในยุคนั้น ทำให้ไม่มีใครเฉลียวใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น คือสัญญาณเตือนของโศกนาฏกรรมที่นำมาซึ่งจุดจบของปอมเปอี

การค้นพบเมืองโบราณที่สาบสูญ 😯  😯  😯 

เมืองอันสาบสูญแห่งนี้ถูกค้นพบขึ้นอีกครั้งในอีกปี 1599 ในระหว่างการขุดอุโมงค์ใต้ดิน คณะผู้ค้นพบได้ขุดเจอกำแพงที่เต็มได้ด้วยภาพวาดและจารึกมากมาย แต่แล้วการสำรวจก็ได้หยุดชะงักไป และเริ่มขึ้นอีกครั้งในปี 1748 ต่อเนื่องเรื่อยมา เผยให้เห็นโฉมหน้าความรุ่งเรืองและอารยธรรมอันศิวิไลซ์ของปอมเปอี

pompeii-145811
รูปร่างของมนุษย์ที่เสียชีวิตในอิริยาบถต่าง ๆ

โดยการค้นพบครั้งที่สำคัญที่สุด เกิดขึ้นในปี 1863 เมื่อ กูวเซปเป้ ฟิโอเรลลี่ (Giuseppe Fiorelli) ได้ค้นพบชิ้นส่วนของชาวปอมเปอีที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ระเบิดของภูเขาไฟ ซึ่งชิ้นส่วนดังกล่าวได้เสื่อมสลายไปตามกาลเวลาจนเหลือแต่โพรงภายใต้ขี้เถ้าภูเขาไฟ ทางคณะผู้สำรวจจึงเจาะรูเล็ก ๆ แล้วหยอดปูนปาสเตอร์ลงไป เมื่อปูนแห้งก็ได้ออกมาเป็นรูปร่างของมนุษย์ที่เสียชีวิตในอิริยาบถต่าง ๆ ทำให้รู้ว่าพวกเขากำลังทำกิจกรรมอะไรอยู่ในช่วงวินาทีสุดท้ายของชึวิต โดยบางคนอยู่ในท่าทางคล้ายกับกำลังสวดมนต์ เพื่อขอให้พระเจ้าคุ้มครองในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต

หรืออยู่ในอาการใช้มือปิดปากปิดจมูก นั่นก็แสดงว่าพวกเขาต้องเผชิญกับก๊าซพิษร้อนๆ ผสมขี้เถ้า เมื่อหายใจเข้าไปก็เกิดการสำลัก และสิ้นใจก่อนจะถูกขี้เถ้าทับถมร่าง

และด้วยความมหัศจรรย์ของปอมเปอี ทำให้เมืองแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เมื่อปี 1997 นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของประเทศอิตาลี ที่มีผู้มาเยือนมากกว่า 2 ล้านคนต่อปี และ เชื่อว่าหลังจากการออกฉายของภาพยนตร์ที่ได้สร้างจากโครงเรื่องจริงของ เมืองมระณะปอมเปอีนั้น น่าจะทำให้ใครหลายคนอยากไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ของตำนาน อันสาบสูญสักครั้งในชีวิต

หวังว่าทุกท่านคงชอบเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราแนะนำในครั้งนี้ ถ้าท่านใดคิดจะเดินทางไปอิตาลี หรือ กำลังจะเดินทาง อย่าลืมแวะ เมืองปอมเปอีแห่งนี้ รับรองว่ามีความประทับรอคุณอยู่แน่นอนคะ 🙂  😉  😆  ➡

จองโรงแรมที่พักที่เมือง ปอมเปอี

ใส่ความเห็น

Note: Comments on the web site reflect the views of their authors, and not necessarily the views of the bookyourtravel internet portal. You are requested to refrain from insults, swearing and vulgar expression. We reserve the right to delete any comment without notice or explanations.

Your email address will not be published. Required fields are signed with *

%d bloggers like this: